รีวิว Huawei MateBook 14s โน้ตบุ๊กทำงานที่โดดเด่นด้วยจอ 2.5K อัตรารีเฟรช 90Hz
Huawei ทำโน้ตบุ๊กตระกูล MateBook มาแล้วหลายรุ่น จุดเด่นคือสเปกและการทำงานที่เข้ากันได้กับอีโคซิสเท็มของ Huawei แม้ช่วงแรกๆ ที่ออกมาจะดีไซน์คล้ายตระกูล MacBook ไปบ้างแต่ปัจจุบันดีไซน์ก็แยกออกมาเป็น Huawei อย่างชัดเจน และสเปกเครื่องก็ไม่ได้น้อยหน้าแบรนด์โน้ตบุ๊ก Windows ตระกูลอื่นๆ
Huawei MateBook 14s เป็นโน้ตบุ๊กอีกรุ่นของ Huawei ที่จัดเต็มไม่ใช่เล่นๆ สเปกให้มาทั้ง Core i5-11300H และ Core i7-11370H ที่เป็นซีพียู Intel เจ็นเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมจอสัมผัส เป็น LCD แบบขอบบาง ความละเอียด 2520×1680 พิกเซล และให้อัตรารีเฟรชมาถึง 90Hz แทนที่จะเป็น 60Hz เหมือนโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป
สเปก Huawei MateBook 14s
จอสัมผัส 14.2 นิ้ว ความละเอียด 2.5K อัตรารีเฟรช 90Hz/60Hz
ซีพียู Core i7-11370H
แรม LPDDR4x 16GB
SSD NVMe PCIe 1TB
กล้องหน้า 720P รองรับ Windows Hello
แสกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิด
พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C x 2 (รองรับการชาร์จแบบ PD, เป็น Thunderbolt 4 x1), USB3.2 Gen 1 x 1, HDMI x 1, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม. แบบคอมโบ
แบตเตอรี่ 60Wh ชาร์จเร็ว 65W
น้ำหนัก 1.45 กิโลกรัม (1.65 กิโลกรัม รวมสายและอแดปเตอร์)
ตัวเครื่องภายนอก
สีเมทัลลิก Space Gray จะออกเรียบหรู เหมาะกับวัยทำงาน สำหรับคนสดใสจะมีอีกสีคือ Spruce Green เป็นตัวเลือก โลโก้ HUAWEI ด้านหลังเป็นตัวหนังสือล้วน ตัวเครื่องหนาประมาณ 16.7 มิลลิเมตร ไม่ได้บางเฉียบ แต่ก็ไม่ได้เทอะทะจนเกินไป ความหนาประมาณโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป น้ำหนักอยู่ที่ 1.45 กิโลกรัม และ 1.65 กิโลกรัมเมื่อรวมอแดปเตอร์และสาย
หน้าจอสัมผัส 90Hz อัตราส่วนจอต่อตัวเครื่อง 90%
จุดเด่นแรก ที่เห็นตั้งแต่เปิดเครื่องมา จะเป็นหน้าจอที่ขอบบางมากๆ อัตราส่วนจอต่อตัวเครื่อง 90% และยังเป็นจอสัมผัสแบบ LTPS LCD ความละเอียด 2520×1680 พิกเซล ซึ่งกำลังดี เพราะหน้าจอโน้ตบุ๊กขนาด 14.2 นิ้วนี่หน้าจอ 4K อาจจะเกินพอไปหน่อย และถ้าใส่มาอาจจะทำให้กินแบตเตอรี่มากขึ้นด้วย ด้วยความที่ Huawei ให้จอให้มาแบบ 90Hz
หน้าจอรองรับมาตรฐานสี sRGB 100% สว่างสูงสุด 400 nits อาจจะดูต่ำเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ได้ทำงานในที่มีแสงจากด้านนอกเข้ามาเยอะมากก็ยังพอไหว ผู้เขียนเอามาลองเทสต์ด้วยการทำงานริมหน้าต่างก็ยังทำงานได้อยู่ตามปกติ
คีย์บอร์ดและทัชแพด
คีย์บอร์ดเครื่องทดสอบยังไม่มีภาษาไทย ทาง Huawei ให้เป็นแผ่นซิลิโคนมาสำหรับใช้งาน แต่สอบถามแล้วเครื่องที่วางจำหน่ายจริงจะมีสกรีนภาษาไทยมาด้วย ระยะปุ่มกดอยู่ที่ประมาณ 1.5 มม. ซึ่งทดลองใช้พิมพ์งานแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ตัว Windows Hello ทำงานได้ว่องไวเหมือนเดิม แต่ใครที่ต้องทำงานแล้วใส่แมสก์ไปด้วย ก็มีตัวสแกนลายนิ้วมือมาให้ในปุ่มพาวเวอร์เลย สะดวกมากๆ
พอร์ตเชื่อมต่อ
พอร์ตเชื่อมต่อด้านขวาให้มาเป็น USB-A สำหรับเม้าส์ทั้งไร้สายและมีสาย หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ยังใช้ USB-A อยู่ ส่วนพอร์ตด้านซ้ายจะเป็น USB Type-C หนึ่งพอร์ตที่รองรับทั้งการชาร์จ การส่งข้อมูล และการต่อจอนอก และสำหรับรุ่น Core i7 จะมี USB Type-C อีกหนึ่งพอร์ตเป็นแบบ Thunderbolt 4 มาให้ด้วย และยังมีพอร์ต HDMI ช่วยให้ต่อหน้าจอนอก หรือทีวีทั่วไปได้สะดวก ถ้าต้องไปใช้งานนอกสถานที่ รวมถึงมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. แบบคอมโบอยู่
สเปกกับการใช้งาน
รุ่น Core i7-11370H ให้สเปกมาค่อนข้างจัดเต็ม คือให้ SSD แบบ NVMe PCIe มาถึง 1TB และให้พอร์ต Thunderbolt 4 มาด้วย เสียดายตัวเลือกแรมมีแค่ 8GB และ 16GB สำหรับการทำงานทั่วไปยังเหลือๆ ใช้อยู่ แต่งานที่ต้องใช้แรมปริมาณมากอาจไม่พอ ตัวการ์ดจอเป็นออนบอร์ด Intel Iris Xe เพียงพอตัดรูปเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่พอเล่นเกมบนความละเอียด 2.5K แน่ๆ ถ้าไม่เล่นเกมเก่าๆ ที่ปรับต่ำสุด หรือลดความละเอียดลง
ผลทดสอบความเร็ว Geekbench ฝั่ง Single-Core ทำได้ 1224 คะแนน ส่วน Multi-Core ทำได้ 5006 คะแนน ซึ่งก็เป็นความเร็วปกติของ Core-i7 11370H ที่ใช้งานทั่วไปได้เหลือแหล่ ส่วนความเร็ว SSD แบบ Sequential Read อยู่ในระดับเกิน 3000 MB/s ส่วน Sequential Write ก็อยู่ในระดับ เกิน 2000 MB/s ถือว่าเร็วปรู้ดปร้าด
แบตเตอรี่ 60Wh ใช้งานได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงก่อนต้องชาร์จ แต่อแดปเตอร์ชาร์จที่แถมมาให้เป็นแบบชาร์จเร็ว 65W ใช้เวลาชาร์จไม่นานก็พอใช้งานได้ยาวๆ แล้ว
สรุป
Huawei MateBook มีจุดเด่นที่หน้าจอ 2.5K แบบ 90Hz ที่ขอบบาง น่าจะเหมาะสำหรับการทำงานและดูคอนเทนต์ต่างๆ หรือแต่งภาพเล็กๆ น้อยๆ ด้านประสิทธิภาพอาจจะมีข้อด้อยอยู่บ้างที่มีตัวเลือกแรมสูงสุดแค่ 16GB แต่โดยรวมด้านอื่นก็ไม่ได้มีปัญหา ตัวเครื่องพกพาสะดวกคุณภาพประกอบดี ไม่ได้หนักหรือหนาเกินไป
ฟีเจอร์อื่นๆ อาจจะสามารถหาได้ในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป แต่สุดท้ายแล้วปัจจัยที่น่าจะตัดสินกันจริงๆ น่าจะอยู่ที่หน้าจอ ซึ่งถ้าใครต้องการหน้าจอ 2.5K แบบ 90Hz แล้ว Huawei MateBook 14s ก็จะเป็นโน้ตบุ๊กสายทำงานเพียงหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่มีฟีเจอร์นี้
สำหรับราคา รุ่น Core i5-11300H กับแรม 8GB และ SSD 512GB ราคาจะอยู่ที่ 40,990 บาท ส่วน Core-i7 กับแรม 16GB และ SSD 1TB ราคาจะอยู่ที่ 55,990 บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่เบา แต่ถ้าอยากได้หน้าจอคุณภาพดีๆ รีเฟรชเรตสูง โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่หน้าสนใจ
ที่มา:Blognone
อ่านบทความเพิ่มเติม doodee-web.com